top of page

---> แค่ กิน ๆ นั่ง ๆ เดิน ๆ ในออฟฟิศ ก็ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ได้ใน 1 เดือน ทำได้จริงจ้า อยากแชร์


ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ได้ใน 1 เดือน ทำได้จริงจ้า

มีคนใกล้ตัวทั้งเพื่อน ๆ และลูกค้า ถามมากมายว่า “ไปทำอะไรมาถึงผอมจัง” “เฮ้ย ตอนลอยกระทงแกยังอ้วนอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้ผอมจัง” “เสียดายเนอะ ที่วัดเค้ามีแต่ประกวดนางนพมาศ ถ้ามีประกวดธิดาช้าง ชั้นจะส่งแกเข้าประกวดเอง รางวัลเห็น ๆ (อันนี้เพื่อนสนิท ถ้าไม่สนิท มีโดนฟาดงวง)” ฯลฯ วันนี้โอกาสดี ๆ เริ่มต้นปีใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก ยุ้ยจะมาแนะนำแนวทางการลดน้ำหนักของยุ้ย ที่สามารถลดได้ถึง 10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาแค่ 1 เดือนนิด ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอะไรมากมาย ส่วนใหญ่จะกิน ๆ นั่ง ๆ เดิน ๆ ในออฟฟิศ เท่านั้นเอง

ขอแนะนำตัวเองก่อน เราชื่อ ยุ้ย เริ่มลดน้ำหนักจริงจัง ตอนปลายเดือน พฤศจิกายน 2016 จ๊ะตอนนั้น น้ำหนักเราอยู่ที่ 55 กก. (สูง 155 ซม. ไม่ต้องลำบากคำนวณค่า BMI ก็พอจะรู้ว่าอ้วนจ้า) ผ่านมาถึงวันนี้ (ตอนปลายเดือน ธันวาคม 2016 ) ก็ประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ น้ำหนักเราลดลงมาเหลือ 45 กก. (ส่วนสูง 155 ซม. เท่าเดิม ไม่เพิ่มเติมมาบ้างเลย 555) เราเองยังก็ยังตกใจ ว่าลดได้งัยตั้ง 10 กก. ในเวลาแค่นี้ ทั้ง ๆ ที่ส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แต่เมื่อได้ศึกษาอย่างจริงจังทั้งจากการหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตและสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ถึงบางอ้อ การลดลงของน้ำหนักมันไม่ใช่ปาฏิหาริย์ มันมีหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญ แค่เราเข้าใจกลไกการทำงานของร่างกาย เราก็จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย เรียกว่า ได้ครบพร้อมเลยทั้งสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจ (มีคนอ้วนคนไหนบ้างที่ไม่ยิ้มเวลามีคนทักว่าผอม ยกมือขึ้นจ้า)

ยุ้ยงัย จะใครล่ะ 555

ก่อนอื่นเลย ถามว่า ทำไมถึงอยากลดน้ำหนัก? ปกติเราก็เป็นคนค่อนข้างสมส่วน (อวบนิด ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าอ้วน หรือ มีปัญหาอะไร) แต่มาพักหลัง ๆ น้ำหนักเราขึ้นเร็วมาก ซึ่งเราคิดว่ามันมาจาก 4 สาเหตุหลัก คือ

  1. เป็นคนชอบทานจุบจิ๊บ กินได้ทั้งวัน (แม้ว่าจะไม่หิว อันนี้เป็นความสามารถพิเศษ 555)

  2. มื้อเย็น (ประมาณ 2 ทุ่ม) ต้องกิน แถมกินเยอะซะด้วย ไม่กินก็ไม่ได้ เพราะแม่เป็นคนชอบทำกับข้าว แถมทำอร่อยซะด้วย เพื่อน ๆ หลายคนจะเข้าใจข้อนี้ดี เช้า ๆ รีบออกจากบ้าน กลางวันทานที่ออฟฟิศ มื้อเย็นจึงเป็นเพียงมื้อเดียวที่แม่จะได้ทำกับข้าวให้เราทาน (ถ้าไม่ทานมีงอน 555)

  3. งานที่ร้านยุ่งมากมาย เวลาออกกำลังกายเหรอ ลืมไปได้เลย ตื่นเช้า กลับดึก แค่เวลานอนก็เอาให้รอดก่อนเหอะ (แถมต้องเจียดเวลานอนมาดูซีรี่ย์ อีก 555)

  4. เคยทดลองทานยาลดน้ำหนักยี่ห้อนึง โยโย่เลยจ้า (ทานแล้วมึนหัว หงุดหงิด ใจเต้นเร็ว คิดงานไม่ออก เลยหยุดทาน)

ส่วนเหตุผลที่เราอยากลดน้ำหนัก มีแค่ข้อเดียวเลยตอนนั้น ไม่ได้รู้สึกลำบากที่อ้วน ไม่ได้คิดว่าสุขภาพจะดีขึ้น แต่อยากซื้อเสื้อผ้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เหมือนเมื่อก่อน (อาจจะเป็นเหตุผลแปลก ๆ แต่ตอนนั้นคิดแค่นี้จริง ๆ จ้า) ต้องบอกเลย ว่ายุ้ยเป็นนักช๊อปเสื้อผ้าออนไลน์มือวางระดับต้น ๆ ของเมืองไทยเลย มีความสุขมากกับการได้เห็นนางแบบใส่ชุดสวย ๆ แล้วเราสั่งมาใส่ได้เหมือนเขา (ก็คิดไปว่าน่าจะสวยเหมือนเขา) แต่มาพักหลัง ๆ เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น ปัญหาเกิดเลยจ้า เสื้อผ้า Size L มันเริ่มหายาก (ปกติเราใส่ Size M คือจาก S ขยับมาเป็น M ก็ยังไม่รู้สึกว่าลำบากอะไร) ชุดสวย ๆ ที่เราชอบมันมักจะมีแค่ Size S กับ M งานงอกกกกกกก ชุดสวย ชอบ อยากซื้อ แต่ใส่ไม่ได้ หงุดหงิดมากมาย ขอบอก เลยคิดว่า ชั้นจะต้องผอม เพื่อให้กลับไปใส่ Size M ให้ได้และมีความสุขกับการช๊อปออนไลน์ได้เหมือนเดิม บอกแล้วงัย เหตุผลอาจจะแปลก ๆ แต่คิดแบบนี้จริง ๆ จ้า

อยากลด แล้วจะลดยังงัย งานก็ต้องทำ ข้าวเย็นก็ยังต้องกินทุกวัน (ข้อแนะนำของหลาย ๆ คนคือให้งดทานมื้อเย็น อันนี้ไม่สามารถจริง ๆ จ้า) พอดีได้คุยกับเพื่อนซึ่งมาแนะนำอาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อนึง (ในใจคิด เอาอีกแล้วเหรอ ผลจากการโยโย่ครั้งที่แล้วยังไม่หายเลย) แต่พอพูดคุยแล้ว ทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของร่างกายมากขึ้น ธรรมชาติของการเผาผลาญ กลไกลของร่างกาย ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะ (เพื่อน ๆ สามารถหาอ่านได้ในหนังสือ อินเตอร์เน็ต หรือไม่ก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้เลยจ้า) แต่ถ้าให้ยุ้ยสรุปแบบง่าย ๆ เลย ก็คือ

**** น้ำหนักที่ลด = พลังงานที่เราทานเข้าสู่ร่างกาย – พลังงานที่เผาผลาญ (ในแต่ละวัน) ****

ง่าย ๆ คือ ต้องกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ ส่วนจะกินเท่าไหร่ อะไร อย่างไร มีข้อมูล มีตารางเปรียบเทียบให้ดูเยอะแยะ แต่ด้วยความขี้เกียจงัย ต้องวุ่นวายเปิดตาราง เปิดแล้วจะถูกป่าวก็ไม่รู้ เพื่อนเลยแนะนำให้ลองวิธีที่ง่ายกว่านั้น App. ฟรี มีให้เราลองโหลดมาใช้มากมายจ้า (สารภาพตามตรง เพิ่งรู้ 555) ลองใช้หลายอัน แต่ยุ้ยชอบอันนี้ Calorie Diary (App. ฟรีจ้า แต่ถ้ารำคาญโฆษณาและอยากเพิ่มรายการอาหารโปรดของเราที่ไม่มีใน App. ก็ต้องจ่ายเงินจ้า แค่ 350 บาท ใช้ได้ตลอดชีพ ยุ้ยจ่ายแล้วนะจ๊ะ ปล. ความชอบส่วนตัว และไม่ได้ค่าโฆษณาจ้า) ไม่ต้องคิดมากมาย แค่กรอกข้อมูล แล้วก็จะได้ทราบทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการลดน้ำหนักของเราจ้า

ในส่วนที่หลาย ๆ คนอยากรู้ อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะรู้แล้วจ้า (อ่านมาตั้งนาน อย่าเพิ่งบ่นนะจ๊ะ 555) น้ำหนักยุ้ยลดได้ยังงัย ยุ้ยว่ามาจาก 4 สาเหตุ คือ

1. เรียนรู้และฝึกสังเกตร่างกายของเรา โดยเฉพาะเรื่องการกิน (กินให้น้อยกว่าที่ร่างกายต้องการจริง ๆ ย้ำ ร่างกายต้องการนะจ๊ะ ไม่ใช่กินตามใจหรือปากอยาก) เรื่องง่าย ๆ ที่สำคัญคือ ถ้าไม่หิว อย่ากิน (เรื่องกินจุบจิบระหว่างวัน ของว่างระหว่างมื้อ เลิกค่ะ เลิก) โดยเลือกกินให้มากขึ้น จากปกติที่กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เราก็บอกตัวเองเลยว่า เราจะกินเฉพาะของที่อร่อยและเราอยากกินจริง ๆ (เป็นคนชอบกินของหวาน ครั้งนี้จึงเป็นการลดน้ำหนักครั้งเดียวที่เรายังทานของหวานได้) ส่วนพวกขนมกรุบกรอบ อาหารทอด ๆ ที่มักจะเข็นมาขายหน้าออฟฟิศ เราก็งดเลยค่ะ เพราะจริง ๆ ก็ไม่ได้อยากทาน แต่เห็นเขามาขายก็อดซื้อไม่ได้ J (ได้แนวคิดจากวิดีโอนี้จ้า อาจจะไม่ค่อยเกี่ยว แต่ใจความหลักเหมือนกันคือ ถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่จำเป็น เราก็จะเหลือเวลาให้กับสิ่งที่จำเป็นน้อยลง กระเพาะเราก็เช่นกัน https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=374109656299336&id=364402130603422)

2. ออกกำลังกายค่ะ อันนี้ก็เลี่ยงไม่ได้ค่ะ เป็นสิ่งสำคัญเลยที่จะช่วยให้เราเผาผลาญได้มากขึ้น อ้าว... ไหนบอกว่าไม่มีเวลา แล้วจะออกกำลังงานยังงัย ก็ทำงานไป ออกกำลังกายไปจ้า เคยได้ยินป่ะ “แค่ขยับ = ผอม” แต่ก่อนเราก็เข้าใจว่าการออกกำลังกายต้องไปเล่นกีฬา ไปวิ่ง ไปฟิตเนส ก็เลยไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่พอเพื่อนแนะนำว่าเราสามารถเพิ่มการเผาผลาญได้ด้วยการเคลื่อนไหว ร่างกายเราไม่สนหรอกว่ามันคือการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา หรืออะไร แต่ร่างกายเรารู้แค่ว่าจะต้องใช้พลังงานในการเคลื่อนไหว ... เดินไปกินข้าวร้านปากซอยแทนการขี่มอไซค์ เพิ่มการเดินในแต่ละวัน เดินไปหาลูกค้าอย่างรวดเร็วและพาลูกค้าเดินดูรถเกือบทุกคันก่อนให้ลูกค้าตัดสินใจ (เราขายรถมอไซค์นะจ๊ะ) นั่งแกว่งขาระหว่างทำงานเอกสาร ใช้คนอื่นให้น้อยลง ทำเองมากขึ้น (ซื้อน้ำ ชงกาแฟ ซื้อข้าว ฯลฯ)

แค่ขยับ = ผอม

3. พักผ่อนให้เพียงพอจ้า อย่างที่เรารู้ ๆ กัน ยิ่งพักผ่อนน้อย ยิ่งเครียด พอยิ่งเครียด ก็ยิ่งกินมาก ยิ่งนอนดึกยิ่งมีเวลากินเยอะ เพราะงั้น หลังข้าวเย็น เราก็นั่งย่อยสักพัก แล้วรีบนอนเลยจ้า (ซีรี่ส์ รายการทีวีที่ชอบ สามารถดูย้อนหลังได้นะจ๊ะ)

4. ทานอาหารเสริมลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ไม่กดประสาท และได้ผลจริง (ดูแลและพัฒนาสูตรโดยแพทย์นะจ๊ะ)

ผลจากการทำ 4 ข้อที่เราบอก ก็อย่างที่เห็นจ้า กลับมาใส่ Size M ได้แล้ว กลับมาช๊อปเสื้อผ้าออนไลน์ได้อย่างมีความสุข แถมได้สุขภาพกายและใจที่ดีมาอีกด้วยนะจ๊ะ (มีคนอ้วนคนไหนบ้างที่ไม่ยิ้มเวลามีคนทักว่าผอม ยกมือขึ้นจ้า) กับน้ำหนักที่หายไป 10 กก. ในเวลาแค่ 1 เดือน บางที่เราแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังลดน้ำหนัก แป๊บ ๆ อ้าว ผอมซะแล้ว ไม่มีมึนหัว ใจสั่น นอนไม่หลับ ยังสามารถทานอาหารได้อร่อยเหมือนเดิม ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แล้วก็มีหลายคนเป็นห่วงว่าถ้าลงเร็วแบบนี้แล้วจะโยโย่ป่าว ไม่กลัวโยโย่เหรอ เอาตรง ๆ ตอนนี้เราก็ตอบไม่ได้นะว่าจะโยโย่ไหม ต้องรอดูกันต่อไป แต่ถามว่ากลัวโยโย่ไหม? ตอบเลยว่าไม่ เพราะอย่างที่เคยบอก พอเราเข้าใจกลไกการทำงานของร่างกาย และมีคำแนะนำที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถให้คำปรึกษา คำแนะนำ อย่างใกล้ชิด เหมือนมีแพทย์ส่วนตัวมาคอยให้คำแนะนำ เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้วสำหรับการดูแลรูปร่างและสุขภาพของเรา

วันนี้ ขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน อาจจะมีขาดตก พกพร่อง หรืออ่านยาก ก็ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ เราไม่เคยเขียนอะไรที่ยาวขนาดนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย แต่ที่กล้าเขียนเพราะอยากเป็นแนวทางและกำลังใจดี ๆ อีกหนึ่งทางสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังอยากจะลดน้ำหนัก อาจจะเป็นกำลังใจเล็ก ๆ แต่ก็เปี่ยมด้วยความจริงใจนะจ๊ะ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า “ก่อนสิ้น 2560 เราจะก้าวผ่านความอ้วนไปด้วยกัน” ... สู้ ๆ จ้าทุกคน (สามารถดูความเปลี่ยนแปลงและติดตามยุ้ยได้ที่ https://www.facebook.com/warapornyui711 จ้า)

***************************

ปล. 1. กระทู้นี้ตั้งใจที่จะบอกเล่า และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลดน้ำหนักของยุ้ย ทุกกิจกรรมและทุกอย่างที่ยุ้ยทำและน่าจะมีผลทำให้น้ำหนักลด ทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การขยับร่างกาย ทำกิจกรรมที่ออกแรงมากขึ้น (เท่าที่เวลาจะอำนวย) และการกินอาหารเสริม ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ยุ้ยทำรวมๆ กันในช่วงที่ลดน้ำหนัก

2. ไม่ได้ชวนมากินอาหารเสริมค่ะ แค่บอกว่าทำอะไรบ้าง เพราะเรื่องแบบนี้เชื่อว่าทุกคนก็คงมีข้อมูลมากมาย แค่ยุ้ยเขียนแค่นี้ก็คงไม่ได้ทำให้อยากทานอาหารเสริมมากขึ้นจริงไหมค่ะ ซึ่งอาหารเสริมที่ยุ้ยทานเค้าก็ไม่ได้รับประกันว่าจะต้องลดเป็นสิบๆ กิโลเหมือนยุ้ย แต่ที่ยุ้ยเลือกทานตัวนี้ประเชื่อในความปลอดภัย และยังสามารถใช้ชีวิต ทำงานได้ตามปกติ ไม่เบลอ ไม่ปวดหัว ไม่ใจสั่นเหมือนหลายๆ ตัวที่ยุ้ยเคยลอง...คนอื่นทานแล้วอาจจะไม่เห็นผลเหมือนยุ้ยก็ได้ เพราะร่างกายคนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ความไวหรือการตอบสนองต่อสารอาหารหรือสารเคมีต่างๆ ก็ย่อมต่างกัน...การที่ยุ้ยบอกว่ากินอาหารเสริม ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องมากินตามยุ้ยและจะได้ผลแบบยุ้ยนะคะ ยกตัวง่ายๆ ก็เหมือนการที่เราไปกินข้าวที่ร้านอาหาร แล้วก็ถ่ายรูป โพสว่าอร่อย คนอื่นๆ ที่อ่านก็ไม่จำเป็นต้องตามมาทานร้านนี้นะคะ หรือใครที่มีโอกาสผ่านมาแวะทานร้านนี้ อาจจะบอกว่าไม่อร่อยเลยก็ได้ เพราะลิ้นและรสนิยมของแต่ละคนก็คงแตกต่างกันไปจ้า

3. อย่าดูถูกพลังของการขยับตัวค่ะ ถ้าลองค้นหาข้อมูลและลองรวมกิจกรรมต่างๆ ที่เราในแต่ละวัน จะพบว่าช่วยเผาผลาญพลังงานได้เยอะเลย ไม่เชื่อลองตั้งใจทำดูนะคะ ไม่ยากค่ะ ลองเลย อันนี้ยุ้ยแนะนำและเชิญชวนให้ทำตามเลยค่ะ http://www.manager.co.th/Celebonline/ViewNews.aspx?NewsID=9540000110310

4. กับคนที่สงสัยว่าลดจริงไหม หรือแค่เทคนิคถ่ายรูป เข้าไปดูที่เฟสยุ้ยได้ค่ะ ลองไล่ดูตาม time line ได้เลย (Facebook time line น่าจะพอเชื่อถือได้บ้างนะคะ) สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่กรุณาเข้ามาอ่านและกรุณาให้คำแนะนำนะคะ ขอบคุณจริงๆ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ทำได้จริงไหม โฆษณาหรือป่าว น่าทำตามไหม หรือจะขอผ่านไปหาดูวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ ยุ้ยคงบังคับไม่ได้ค่ะ เพราะอย่างที่บอก แค่อยากแชร์ประสบการณ์กับความสำเร็จเล็กๆ ของคนๆ นึง ก็แค่นั้นเองค่ะ ส่วนจะเชื่อหรือไม่ จะเป็นประโยชน์กับใครไหม อันนี้ก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนเลยค่ะ ... ขอบคุณค่ะ

Save

 

+66 0841544554

199/9 หมู่บ้าน Central park, เทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชมา 30000 ประเทศไทย

  • Facebook
  • Instagram

©2016 by KVKX Thailand. Proudly created with Wix.com

bottom of page